วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ถนนคนเดิน เชียงใหม่ แหล่งนัดพบของคนมีฝัน



บนถนนคนเดินเชียงใหม่ วันอาทิตย์ประตูท่าแพหรือ Sunday Market เป็นที่เดินซ๊อปปิ้ง ซื้อของ ท่องเที่ยว ของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ จริงๆแล้วถนนคนเดินของจังหวัดเชียงใหม่มีสองวันด้วยกัน วันเสาร์ที่ถนนวัวลาย วันอาทิตย์ที่ประตูท่าแพ ทั้งสองวันเรียกถนนคนเดินเช่นกัน ถนนคนเดินประตูท่าแพเชียงใหม่ มีทุกวันอาทิตย์ ฝรั่งเรียกกันว่า Sunday market อยู่กลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีคูเมืองล้อมรอบ ถนนคนเดินคึกคักสุดๆ มีของตกแต่งบ้าน ของพื้นเมือง ของที่ระลึกวางขายมากมายยาวเหยียด ทั้งๆที่บนถนนคนเดินเต็มไปด้วยสีสันของพ่อค้าแม่ขาย การแสดง และนักท่องเที่ยว แต่มี Highlight ที่ทุกคนที่ไปถนนคนเดินเห็นตรงกันคือ การแสดงดนตรีของศิลปินริมทาง



เมื่อหลายปีก่อนถนนคนเดินเชียงใหม่จัดที่ถนนท่าแพซึ่งเป็นเส้นทาง หลักในขบวนแห่ตามเทศกาลต่างๆ จัดได้ไม่กี่ปีก็ย้ายมาจัดในคูเมืองโดยเริ่มจากถนนราชดำเนิน ซึ่งอยู่หลังประตูท่าแพก่อน ต่อมาก็ลามไปถึงถนนเส้นอื่นๆที่ต่อเนื่องกัน คือถนนพระปกเกล้าด้วย ในปัจจุบันถนนคนเดินเชียงใหม่เกิดจากการปิดถนนสองสายที่ตัดกันเป็นรูปกากบาท รวมระยะทางที่เดินเล่นได้ทั้งสิ้นเป็นกิโล ดูๆแล้วน่าจะกว้างขวางเพียงพอ แต่ทุกๆสัปดาห์ก็จะเหล่าคนมีฝันต่างๆก็มาร่วมตัวกันเพื่อขายฝัน เมื่อรวมกับผู้ซื้อและผู้ชมแล้ว ในตอนหัวค่ำของทุก วันอาทิตย์ ที่นี่จะคับแคบแออัดไปถนัดตา

ตามความเห็นของ ผม เวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวที่นี่คงจะเริ่มประมาณ 5 โมงเย็นของวันอาทิตย์ แดดไม่ร้อนมาก และคนยังไม่แน่น ผมชอบไปจอดที่ตึกแถวหน้าการบินไทย ถ้ามาเร็วมักไม่ค่อยผิดหวัง เดินอีกประมาณสองร้อย เมตรก็จะมาถึงลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ที่เราอาจจะพอนับเป็นจุดเริ่มต้นของ ถนนคนเดินได้ (ขอบคุณ Google Map สำหรับแผนที่)



ที่นี่เค้ามีอะไร-ทำอะไรกันบ้าง ก็จะมีคน เอาของมาขายแบกับพิ้นถนน น่าจะเป็นหมื่น items คน ขายที่ยังเป็นหนุ่มสาวก็มีเยอะมาก น่าดีใจที่บ้านเรากำลังจะกลายเป็นสังคมของ entrepreneur ถ้าเราจะจัดประเภทของดู ก็อาจจะมี เสื้อ ผ้าและ accessory ของผู้หญิง หัตถกรรมต่างๆ ของแต่งบ้าน งานศิลปะต่างๆ เช่นภาพวาด ภาพถ่าย ของแปลกชนิดที่เดินผ่านคอเกือบเคล็ดด้วยความฉงน ของเล่นต่างๆทั้งพื้นบ้านและร่วมสมัย บริการต่างๆเช่น นวด วาดรูปเหมือน-ไม่เหมือน ทำรอยสัก การแสดงต่างๆจากผู้มีฝีมือ ผู้ที่อยากมีฝีมือ หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่างแต่มีใจรักหรือมีความลำบาก

และที่ ขาดไม่ได้…ของกิน^^

มีน้องๆที่ทำ งานขนเสื้อผ้ามาขายกับเค้าด้วยเหมือนกัน เค้าเก็บ ค่าไฟฟ้าตรงที่วางแผงแค่วันละ 10 บาท ไม่ต้องมีของแค่มานอนตีพุงเล่นก็คุ้มแล้ว แต่อาจจะโดนประชาชนหมั่นไส้เอาได้ เพราะตอนนี้ demand > supply อยู่มาก (แต่ราคากลับไม่สูงขึ้นไปที่จุดดุลยภาพใหม่ เพราะผู้ดูแลกำหนด Price Ceiling ไว้นะครับ) ที่นี้ถ้าอยากจะขายจริงๆต้องใช้อะไรบ้าง ก็ไม่มีอะไรมากครับ ผ้าปูพื้นผืนเล็กๆ เก้าอี้ตัวเล็กๆ โคมไฟส่องสว่างในเวลากลางคืนและสายพ่วง ที่สำคัญ อย่าลืมสินค้าที่จะเอามาขาย ตรงนี้แหละที่มันยาก ผมคิดเรื่อยเปื่อยมาเป็นปีแล้วยังนึกไม่ออกจะขายอะไร ทั้งหมดใส่ถุงใบเขื่องๆมาได้เลย มาถึงก็ปูผ้า แล้วเอาของออกมาเรียง

Standard Setup Package หน้าตาเป็นแบบนี้นะครับ







นั่งนานๆขายไม่ออกจะพาลเบื่อเอาเสียก่อน เอาหมากระปุกมาซักตัวก็ไม่เลว







บรรยากาศโดยทั่วไปซึ่งจะทวีความอลหม่านมาขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป มีเสียงประกาศให้ระวังถูกล้วงกระเป๋าเป็นระยะๆ และมีอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยเดินกันขวักไขว่ ชาย ใดคิดว่าตัวเองไม่เข้าใจบ้างด้านของผู้หญิง ผมแนะนำให้ลองมาสังเกตการณ์ที่นี่ดู^^











"พ่อๆ ดูแม่ดิ"



Pattern & Rhythm กะจะให้วิ่งจากซ้ายไปขวาและไปหล่นตุ๊บที่พี่ คนขายพอดี แต่แสงไม่ได้น่าสนใจเลยซักนิด นอกจากนี้ผมยังไม่สามารถแก้ไข costume ของนายแบบได้



เนื่องจากสินค้าจำนวนมากเป็น Handicraft ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์กันขึ้นมา เจ้าของเค้าก็กลัวคนอื่นจะมาลอกกันง่ายๆ บางอย่างเค้าจึงห้ามถ่ายรูปนะครับ มองซ้ายมองขวาให้ดี บางทีป้ายห้ามถ่ายก็เล็กมาก มองไม่เห็น มือบอนไปแล้วโดนเตือนก็มี แต่คนเชียงใหม่ไม่ค่อยดุครับ เค้าเตือนมาก็ขอโทษเค้าไป และก็ลบๆรูปนั้นไปซะ ไม่ต้องเสียดาย มีอะไรให้ดูอีกมาก

ที่กำลังนั่งหน้าสลอนนี่คือตุ๊กตา มอม ดูยังไงก็ไม่เหมือน ตัวจริงเค้าจะปีนป่ายอยู่ ตามทางขึ้นวิหารนะครับ





เห็นเจ้าของร้านกับพระในรูปนั่งจ้องหน้ากันอยู่เนิ่นนาน^^ เลยอดถ่ายมาไม่ได้ ของบางอย่างๆดูๆไปแล้วน่าจะขายยากมากโดยเฉพาะถ้าไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่าง ชาติ





เพื่อนบอกว่า ตัวหนีบรูปนี้ขายดีมาก



เห็นแล้วนึกอยากจะมีลูกสาวซักหกคน^^ แต่ ต้องหาแม่ของเด็กให้ได้ก่อน ในวันศุกร์ โรงเรียนในเชียงใหม่เค้าก็จะให้เด็กผู้หญิงแต่งชุดประมาณนี้



หลอดไฟราวมีเปลือกเป็นรังไหมย้อมสี ผม ซื้อไปติดที่โต๊ะทำงาน เปิดตอนโพล้เพล้เข้าท่าดี











Service ต่างๆที่เค้ามีให้บริการบนถนนคนเดิน sketch รูป นี่จะมีเยอะมาก สงสารหนูน้อยเสื้อเหลือง ต้องนั่งนิ่งอย่างน้อย 15 นาที กว่าจะได้ภาพ





Body paint



อันนี้ทำอะไรไม่รู้





“กู.. ผิดตลอด มึง.. ถูกเสมอ” บนถุงเขียนไว้แบบนี้ ถูกใจแต่ไม่ได้ซื้อมา เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ยังไง อีกร้านหนึ่งเค้ารับเขียนตัวหนังสือแสบๆคันบนเสื้อ เห็นคำคมแต่ละตัวแล้วอยากได้มั่ง แต่ต้องขอกลับไปคิดคำคมๆที่บ้านก่อน ตอนนี้ยังนึกไม่ออก



ปกติของกินที่ขายตามงานแฟร์ต่างๆ มักจะอร่อยหมด หมด=ไม่มีแล้ว คือเหลืออยู่แต่ที่ไม่อร่อย^^ แต่สำหรับถนนคนเดินเชียงใหม่อาจจะเป็นข้อยกเว้น ตลอด หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผมฝากท้องไว้ที่นี่ เจออะไรก็ชวนกินไปหมด ไม่รู้เป็นอะไร อย่างเฉาก๊วยโบราณนี่เสร็จผมทุกที ผมชอบซื้อแล้วก็ยืนหม่ำที่หน้าร้าน ฟังดนตรีคนตาบอดไปด้วย เสียค่าเฉาก๊วย 10 บาท เสียเงินบริจาคให้นักดนตรีอีก 20 บาท ทุกครั้งที่มา^^ หม่ำเสร็จก็ถ้วย เปล่าให้เค้าไป เพราะหาถังขยะยากมากเลยครับ











เปลืองกระบอกไม้ไผ่มากเลย T T



หอยทอดแบบเป็นครก (หลุม)



ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ช่วงไหนถนนแคบๆ หยุดดูของแทบไม่ได้เลย ไม่ได้เอา tripod ไปเพราะกลัวจะเบียดเบียนคนอื่นๆ แต่ถ้าเปิดหน้ากล้องซัก 3-4 วินาที จะได้บรรยากาศของความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมาก













ลูกโป่งนี่ก็ท่าทางจะขายยากเอาการอยู่ เคยเห็นพี่คนนี้หลายงานมาก



แอบดูการเลือก ซื้อของสาวๆ ผู้หญิงนี่ก็แปลกจริงๆ พวกหล่อนไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดจากของกุ๊กกิ๊กเหล่านี้ได้เลย เห็นที่ไรเป็นต้องอ่อนระทวยทุกที ^^ ผมเองไม่ใช่ผู้หญิงแต่ไปเดินบ่อยเข้าก็เริ่มระทวยเหมือน กัน แต่ก็ไม่ได้เสียตังค์ซักทีเพราะไม่รู้จะซื้อให้ใครน่ะ















มีอะไรบนถนนคนเดินหาดูอีกมาก................เดินเนื่อยแล้วหาโรงแรมใกล้ๆพักดีกว่า ใกล้ๆถนนคนเดินมีโรงแรมที่พักให้เลือกมากมายตามใจชอบ

ฝันของบางคน เป็นตัวเป็นตนไปแล้ว บางคนก็ยังเป็นเป็นวุ้นอยู่เลย และยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นจริง สำหรับผม ถ้าอยากรู้ว่า ความฝันของผมคืออะไร คงต้องเข้าไปในห้องทำงานผม เอาติดไว้ที่ข้างฝาได้ 2-3 เดือนแล้ว และมันคงจะอยู่ตรงนั้นอีกนาน เพราะคนที่ผมจะขายเค้าไม่ยอมซื้อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น